รีวิวบัตรเครดิตและโปรโมชั่น uob premier

UOB Premier บัตรที่สะสมแต้มได้เร็วที่สุดจากการใช้จ่ายในห้างและร้านค้าปลอดภาษี แลกแต้มเป็นคะแนนสะสมของห้างเพื่อใช้ลดราคาสินค้า,คะแนนสะสมไม่มีวันหมดอายุ,รับเครดิตเงินคืนคุ้มๆกับรายจ่ายในชีวิตประจำวัน ,รับเครื่องดื่มฟรี,มีที่จอดรถ แลกไมล์สายการบินและได้สิทธิเข้าใช้บริการเลาจน์สนามบินรวมถึง Priority Pass อีกด้วย

สนใจสมัครบัตร UOB Premier ง่ายๆผ่านช่องทางออนไลน์ คลิกที่นี่ได้เลยครับ :>> สมัครบัตร UOB Premier

14 สิทธิประโยชน์หลักของบัตรเครดิต UOB Premier

  1. ทุกๆ 25 บาท รับ 2 คะแนนสะสมสำหรับการใช้จ่ายทั่วไป
  2. ทุกๆ 25 บาท รับ 4 คะแนนสะสม(ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลอดภาษี)
  3. รับเครดิตเงินคืน 5% จากซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ
  4. รับเครดิตเงินคืน 10% จากการเติมน้ำมัน
  5. แลกรับเครดิตเงินคืน 15% กับห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
  6. แบ่งชำระ 0% นาน 3 เดือนสำหรับสินค้าหมวดแฟชั่น
  7. รับเครื่องดื่มฟรีได้ทุกเดือน ณ ร้านกาแฟชั้นนำ
  8. ที่จอดรถสำรองพิเศษ ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
  9. แลกไมล์สะสมกับสายการบินชั้นนำ 3 คะแนน: 1ไมล์
  10. บริการห้องรับรองพิเศษที่สนามบินสุวรรณภูมิ 2 ครั้ง/ปี
  11. บัตร Priority Pass สำหรับใช้เลาจน์สนามบินทั่วโลก
  12. ประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทางวงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท
  13. บริการเลขส่วนตัว 24 ชั่วโมง
  14. บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน

รับโปรฯสุดคุ้มทั้งคะแนนและกระเป๋า เมื่อสมัครบัตรฯ UOB Premier ทางออนไลน์ คลิกที่รูปภาพได้เลยครับ


UOB Premier เป็นบัตรประเภทไหน

บัตรเครดิต UOB Premier เป็นบัตรเครดิตประเภท World Mastercard ซึ่งถูกจัดอยู่ในระดับที่ 3 จากทั้งหมด 4 ระดับ(รองท็อป) ทำให้บัตรใบนี้เริ่มที่จะมีสิทธิประโยชน์ในเรื่องที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว,ช็อปปิ้ง,เลขาส่วนตัว,สิทธิในการใช้เล้าจน์สนามบิน รวมถึงประกันการเดินทางให้สมาชิกได้ใช้บริการกัน

คุณสมบัติและรายได้ขั้นต่ำของผู้สมัคร UOB Premier

UOB Premier กำหนดรายได้ขั่นต่ำของผู้สมัครไว้ที่ 30,000 บาทขึ้นไป/เดือนสำหรับชาวไทยและ 50,000 บาทขึ้นไป/เดือนสำหรับชาวต่างชาติ 

หากเป็นพนักงานประจำต้องมีอายุงาน 4 เดือนขึ้นไป(ผ่านการทดลองงาน) และอายุกิจการ 3 ปีขึ้นไปสำหรับเจ้าของกิจการ


สนใจสมัครบัตร UOB Premier ง่ายๆผ่านช่องทางออนไลน์ คลิกที่นี่ได้เลยครับ :>> สมัครบัตร UOB Premier


เงื่อนไขค่าธรรมเนียมบัตร UOB Premier

ค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับบัตร UOB Premier อยู่ที่ 5,000 บาท/ปี ซึ่งจะฟรีในปีแรกและจะเรียกเก็บในปีถัดไป สามารถยกเว้น(Waive)ค่าธรรมเนียมได้เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 300,000 บาทขึ้นไป/ปี คิดเป็นรายจ่ายผ่านบัตรเฉลี่ยเดือนละประมาณ 25,000 บาท 

คะแนนสะสม 2 เท่า

ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตร UOB Premier ในประเทศและการใช้จ่ายที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ ท่านจะได้รับคะแนนสะสม 2 คะแนนจากทุกๆการใช้จ่าย 25 บาทครับ(คิดเป็นรายจ่าย 12.5 บาท:1 คะแนน)

ด้วยอัตราการให้คะแนนสะสมในทุกการใช้จ่ายที่สูงขนาดนี้จึงทำให้เกิดความคุ้มค่ากับการใช้จ่ายค่อนข้างมากและใช้ง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ

ต่างกันกับบัตรฯอื่นๆอย่างเช่น UOB Lady’s Solitaire หรือบัตร UOB Lady’s Card ที่แม้ว่าจะให้คะแนนพิเศษในอัตราสูงสุด 10 บาท : 1 คะแนน แต่ก็จำกัดเฉพาะบางหมวดเท่านั้น   

แต่บัตร UOB Premier ไม่ได้มีดีอยู่แค่นี้ครับ เพราะไฮไลท์ของมันอยู่ที่อัตราคะแนนพิเศษ 25 บาทต่อ 4 คะแนน จากการใช้จ่ายในห้างและร้านค้าปลอดภาษีครับ

คะแนนสะสม 4 เท่า

บัตร UOB Premier ให้คะแนนสะสมในอัตราพิเศษ 4 คะแนนจากทุกๆการใช้จ่าย 25 บาท (คิดเป็นรายจ่าย 6.25 บาท:1คะแนน)จากใช้จ่ายภายในห้างสรรพสินค้าหรือซื้อของจากร้านค้าปลอดภาษี(Duty-Free) ทั่วโลก

ด้วยอัตราคะแนนที่สูงขนาดนี้ ทำให้ถ้าหากคุณเป็นคนที่ซื้อของในห้างหรือมีโอกาสซื้อสินค้าจากร้านค้าปลอดภาษี(Duty Free)อยู่แล้ว คุณก็จะสามารถปั่นแต้มได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะครับ

เมื่อได้แต้มสะสมมากขึ้นจากมูลค่ารายจ่ายเท่าเดิม ก็แปลว่าเราสามารถนำแต้มสะสมในบัตรไปแลกเป็นสิทธิประโยชน์อื่นๆได้คุ้มค่ามากขึ้นนั่นเองเพราะมีต้นทุนที่ถูกลง

เงื่อนไขหลักที่ต้องรู้สำหรับใครที่ต้องการรับคะแนนสะสม 4 เท่าจากบัตรใบนี้ก็คือ ยอดใช้จ่ายที่จะเข้าเงื่อนไขนี้จะต้องเป็นยอดใช้จ่ายกับห้างร้านที่มีรหัสผู้ค้า(MCC) 5309 หรือ 5311 เท่านั้นครับ

รหัสผู้ค้า MCC 5309 คืออะไร?

สำหรับบัตร UOB Premier เป็นบัตรในเครือ Mastercard ถ้าเราไปดูเอกสารอ้างอิงรหัสผู้ค้า(MCC: Merchant Category Code) รหัส 5309 จะหมายถึงร้านค้าปลอดภาษี(Duty free) ซึ่งก็ค่อนข้างชัดเจน สามารถใช้จ่ายได้ค่อนข้างมั่นใจว่าได้แต้ม 4 เท่าแน่นอน 

รหัสผู้ค้า MCC 5311 คืออะไร?

ส่วนร้านค้าที่เป็นเลขรหัส MCC 5311 ถ้าอ้างอิงตามเอกสารของ Mastercard จะเป็น Department store หรือห้างสรรพสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะหมายถึงสินค้าที่ห้างขายเอง ไม่ใช้สินค้าที่อยู่ในร้านค้าที่มาเช่าพื้นที่ขายของอยู่ในห้างสรรพสินค้า 

เพราะฉะนั้น หากใครที่วางแผนซื้อของในห้างเพื่อรับแต้ม 4 เท่า ก็จะต้องซื้อสินค้าภายในห้างสรรพสินค้านะครับ ถึงจะแน่ใจได้ว่าเราจะได้คะแนนพิเศษที่อยากได้จริงๆ

อายุคะแนนสะสมจากบัตร UOB Premier

คะแนนสะสมจากการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ UOB Premier ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไปจะไม่มีวันหมดอายุครับ

โดยที่คะแนนสะสมที่มีอยู่เดิมในบัตรและได้รับจากโปรแกรมพิเศษอื่นๆของทางธนาคาร UOB ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 ก็จะมีอายุ 2 ปีนับจากวันที่มีการบันทึกการใช้จ่ายตามเงื่อนไขเดิม

นั่นแสดงว่า หากท่านมีการใช้จ่ายผ่านบัตร UOB Premier หลังจาก 1 ม.ค. 2567 คะแนนสะสมที่ได้มาก็จะอยู่ไปได้เรื่อยๆไม่มีวันหมดอายุนั่นเองครับ ทำให้มีเวลาในการสะสมคะแนนให้ได้เยอะๆเพื่อนำไปแลกเป้นสิทธิประโยชน์ได้มากขึ้น เช่นแลกไมล์สายการบิน,แลกคะแนน The1ของเซ็นทรัล หรือ M-Point ของเดอะมอลล์เพื่อใช้ซื้อสินค้านั่นเอง

และนอกจากสิทธิประโยชน์ในด้านคะแนนสะสมที่โดดเด่นแล้ว บัตร UOB Premier ก็ยังมีความคุ้มค่าอีกอย่างนึงก็คือการให้เครดิตเงินคืน(Cashback) สำหรับยอดใช้จ่ายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต,ปั๊มน้ำมัน และห้างสรรพสินค้าต่างๆครับ

สนใจสมัครบัตร UOB Premier ง่ายๆผ่านช่องทางออนไลน์ คลิกที่นี่ได้เลยครับ :>> สมัครบัตร UOB Premier

โปรโมชั่นเครดิตเงินคืน(Cashback)ของ UOB Premier

โปรโมชั่นเครดิตเงินคืน(Cashback) ของบัตร UOB Premier หลักๆจะแบ่งเป็น 3 ประเภทดังนี้ครับ 

  1. เครดิตเงินคืน 5% จากซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ร่วมรายการ
  2. การใช้คะแนนแลกรับเครดิตเงินคืนจากห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ
  3. เครดิตเงินคืนจากการเติมน้ำมันจากปั๊มที่ร่วมรายการ 

เครดิตเงินคืน 5% จากซุปเปอร์มาร์เก็ต

บัตรเครดิต UOB Premier มาพร้อมกับโปรโมชั่น Cashback ติดบัตรเลยคือหากคุณรูดบัตรซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ร่วมรายการและมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 800 บาทขึ้นไปก็จะได้รับเครดิตเงินคืน 5%

โดยมีเงื่อนไขหลักๆในการรับเครดิตเงินคืนจากโปรฯนี้นิดหน่อยดังนี้ครับ

  1. ต้องลงทะเบียนทาง SMS เพื่อรับสิทธิ(ลงทะเบียนครั้งเดียวตลอดระยะเวลาโปรโมชั่น)
  2. ซื้อของแต่ละครั้งต้องมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 800 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป และจะได้เงินคืนสูงสุดไม่เกิน 500 บาท/ผู้ถือบัตร/เดือน รวมซุปเปอร์มาร์เก็ตทุกเจ้า
  3. ไม่รวมการใช้จ่ายออนไลน์และ E-Wallet

ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ร่วมรายการเครดิตเงินคืน(Cashback) กับ UOB Premier มีที่ไหนบ้าง?

ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ร่วมรายการเครดิตเงินคืน 5% กับบัตร UOB Premier ปัจจุบันมีอยู่ 6 เจ้าครับคือ

  1. เซ็นทรัลฟู๊ดฮอล์(Central Food Hall)
  2. ท็อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต(Top Super Market) (คลิกที่นี่เพื่อสำรวจราคาสินค้าไว้ก่อน)
  3. โฮมเฟรชมาร์ท(Home Fresh Mart)
  4. กูร์เมต์ มาร์เก็ต(Gourmet Market)
  5. วิลล่ามาร์เก็ต(Villa Market)
  6. ฟู๊ดแลนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ต(Foodland Super Market)

วางแผนใช้บัตร UOB Premier ซื้อของเข้าบ้านยังไงให้คุ้มที่สุด?

ในแต่ละเดือน ทุกคนจะต้องมีการซื้อของเข้าบ้านเป็นประจำอยู่แล้ว เช่น อาหารสด อาหารแห้ง สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม และอื่นๆอีกหลายรายการ

สำหรับใครที่ซื้อของที่ Tops supermarket แนะนำว่า ก่อนจะไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตให้ลองคลิกดูราคาสินค้าและโปรโมชั่นในแอปฯไว้ก่อนล่วงหน้าครับ จะได้รู้ราคาและวางแผนการซื้อได้ถูก

สิ่งที่ต้องทำสำหรับการวางแผนก็คือ เลือกสินค้าที่เราต้องการจะซื้อ กดใส่ตระกร้า(Add To Cart) ไว้ เราจะรู้ราคาและโปรโมชั่นคร่าวๆ ก็จะทำให้เรารู้ว่าเราซื้อครั้งละเท่าไหร่ และเมื่อไปถึงจะต้องเดินไปหยิบอะไรบ้าง สะดวกรวดเร็วครับ

การใช้แอพฯของ Tops Online นั้นบางที่ทำให้เรารู้โปรฯไปก่อนเลย เช่นลดราคา หรือ 1 แถม 1 ซึ่งเมื่อรวมกับเครดิตเงินคืนที่ได้จากการจ่ายผ่านบัตร UOB Premier แล้วก็จะยิ่งคุ้มมากขึ้นไปอีก

ด้วยการใช้บัตร UOB Premier ซื้อของใช้ประจำเหล่านี้ในซุปเปอร์มาร์เก็ต คุณสามารถที่จะรับเครดิตเงินคืนสูงสุดได้ถึงเดือนละ 500 บาทเลยทีเดียวครับ

แน่นอนว่าแต่ละคนก็จะมีรายการและค่าใช้จ่ายในการซื้อของกินของใช้ แต่คอนเซ็ปต์หลักๆที่จะต้องวางแผนซื้อของเพื่อรับเครดิตเงินคืนให้คุ้มที่สุดก็คือ

  1. สำรวจตัวเองก่อนว่าเราซื้อของเข้าบ้านครั้งละกี่บาท หรือ
  2. สำรวจตัวเองว่าเราซื้อของเข้าบ้านเดือนละกี่ครั้ง แล้ววางงบซื้อตามตารางด้านล่าง
  3. ซื้อของซุปเปอร์ครั้งละ 800 บาท ขึ้นไป
  4. ซื้อเดือนละไม่เกิน 10,000 บาท
    • หลังจากครบหมื่นนึงแล้วอาจจะใช้บัตรใบอื่นซื้อหรือไม่ก็ค่อยใช้เงินสด
  5. ถ้าเป็นไปได้และให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด ต้องซื้อตอนมีโปรฯ 1 แถม 1
    • เพื่อที่จะได้ทั้งปริมาณสินค้ามากกว่าเดิม,ได้คะแนนสะสมและเครดิตเงินคืนในเวลาเดียวกัน
รายจ่ายซื้อของ
ซุปเปอร์มาร์เก็ต/ครั้ง
จำนวนครั้งที่ซื้อ/เดือนเครดิตเงินคืน 5%
800 บาท12 ครั้ง480 บาท/เดือน
900 บาท11 ครั้ง495 บาท/เดือน
1,000 บาท10 ครั้ง500 บาท/เดือน
1,500 บาท6 ครั้ง450 บาท/เดือน
2,000 บาท5 ครั้ง500 บาท/เดือน
2,500 บาท4 ครั้ง500 บาท/เดือน
3,000 บาท3,000 (3 ครั้ง)
1,000 (1 ครั้ง)
500 บาท/เดือน
3,500 บาทครั้งหลัก 3,500 (2 ครั้ง)
ที่เหลือ อาจจะเป็น
3,000 ( 1 ครั้ง) หรือ
2,000 (1ครั้ง)+ 1,000 (1ครั้ง)หรือ
1,500 (2 ครั้ง) หรือ
1,000 (3 ครั้ง)
500 บาท/เดือน
4,000 บาทครั้งหลัก 4,000 (2 ครั้ง)
ที่เหลือ อาจจะเป็น
2,000 (1 ครั้ง) หรือ
1,000 (2ครั้ง)
500 บาท/เดือน
4,500 บาทครั้งหลัก 4,500 (2 ครั้ง)
ที่เหลือ
1,000 (1 ครั้ง)
500 บาท/เดือน
5,000 บาท5,000 (2 ครั้ง)500 บาท/เดือน
ตารางวางแผนซื้อของซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อรับเครดิตเงินคืนให้คุ้มที่สุดสำหรับบัตร UOB Premier

นอกเหนือจากการได้รับเครดิตเงินคืนเมื่อใช้จ่ายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ร่วมรายการแล้ว ผู้ถือบัตร UOB Premier ก็ยังสามารถใช้คะแนนสะสมที่มีอยู่แลกเป็นเครดิตเงินคืนจากการใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการได้อีกด้วยครับ

แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 15% ทุกๆ 1,000บาท/เซลส์สลิป

ผู้ถือบัตร UOB Premier จะได้รับเครดิตเงินคืน 15% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรนี้ 1,000 บาทต่อเซลส์สลิปและใช้คะแนนสะสมที่มีอยู่ทุก 1,000 คะแนน แลกรับเครดิตเงินคืน

โดยมีเงื่อนไขหลักๆที่จะต้องทำตามสำหรับการใช้คะแนนสะสม UOB Reward plus แลกรับเครดิตเงินคืน 15% ดังนี้

  1. ต้องลงทะเบียนทุกครั้งก่อนทำรายการ
  2. จำกัดการแลกคะแนนเพื่อเอา cashback ไว้สูงสุดที่ไม่เกิน 50,000 คะแนน
  3. รับเครดิตเงินคืนสูงสุดไม่เกิน 7,500 บาทต่อผู้ถือบัตรต่อเดือน รวมทุกห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ

ห้างที่ร่วมรายการเครดิตเงินคืน15% กับบัตร UOB Premier มีที่ไหนบ้าง

ในปัจจุบัน ข้อมูล ณ วันที่ (1 ม.ค.2567) ห้างที่ร่วมรายการแลกคะแนนเพื่อรับเครดิตเงินคืนกับบัตร UOB Premier มีดังนี้

  1. ห้างเซ็นทรัล(Central)ทุกสาขา
  2. ห้างเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์(M Life Store)
  3. ห้างเดอะมอล์(The Mall)
  4. ห้างเอ็มโพเรียม(Emporium)
  5. ห้างเอ็มควอเทียร์(Emquartier)
  6. ห้างสยามพาราก้อน(Siam Paragon)

เป็นไงครับ ถือว่าน่าสนใจมากเลยใช่มั้ยครับสำหรับบัตรใบนี้ นอกจากสายช็อปปิ้งจะสะสมคะแนนได้รวดเร็วแล้วยังให้โปรโมชั่นแคชแบ็คเครดิตเงินคืนได้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว

UOB Premier ยังมีดีมากกว่านั้นครับ ถูกใจคนที่มองหาบัตรเครดิตสำหรับเติมน้ำมันคุ้มๆแน่นอน

เครดิตเงินคืน(Cashback)จากการเติมน้ำมันด้วยบัตร UOB Premier

ธนาคาร UOB มักจะมีโปรโมชั่นเครดิตเงินคืนจากยอดใช้จ่ายเติมน้ำมันกับปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์(Caltex) ครับซึ่งบัตร UOB Premier ก็มักจะไม่พลาดที่จะได้ร่วมโปรโมชั่นดังกล่าว 

โปรโมชั่นเครดิตเงินคืนจากการเติมน้ำมันในปัจจุบัน(ข้อมูล ณ วันที่ 1 ม.ค.2567)สำหรับบัตร UOB Premier จะมีระยะเวลาถึง 31 มี.ค.2567

โปรโมชั่น Cashback รวมสูงสุด 25% จากการเติมน้ำมันสำหรับบัตร UOB Premier ในปัจจุบันจะแบ่งเป็น 2 ต่อนะครับ คือ

  1. ต่อที่ 1 ลงทะเบียนเพื่อรับเครดิตเงินคืน 10% โดยไม่ต้องใช้คะแนนแลก
  2. ต่อที่ 2 ใช้คะแนนสะสมทุกๆ 800 คะแนนแลกรับเครดิตเงินคืนได้อีก 15%

โปรโมชั่นต่อที่หนึ่ง ลงทะเบียนรับเครดิตเงินคืน 10% โดยไม่ต้องใช้คะแนนแลก

สมาชิกผู้ถือบัตร UOB Premier จะได้รับเครดิตเงินคืน(Cashback)สูงสุด 10% เมื่อมียอดเติมน้ำมันตั้งแต่ 800บาทขึ้นไป/เซล์สลิป  

โดยมีเงื่อนไขหลักๆที่จะต้องทำเพื่อรับเครดิตเงินคืนก็คือ

  1. ต้องลงทะเบียนโดยการส่ง SMS ไปยังเบอร์ที่กำหนดไว้
  2. ผู้ถือบัตร UOB Premier ต้องมียอดใช้จ่ายสะสมในหมวดการใช้จ่ายอื่นๆตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไปต่อลูกค้าต่อเดือน (และต้องอยู่ภายในเดือนเดียวกัน)
  3. จำกัดยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตสำหรับนำมาคิดเครดิตเงินคืนที่ 3,200 บาทต่อลูกค้าต่อเดือน

นอกจากเงื่อนไขหลักๆที่ว่ามาแล้ว ก็จะมีรายละเอียดอื่นเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยนะครับ ซึ่งก็สามารถติดตามได้จากเว็ปไซต์ธนาคาร

ลองคิดคร่าวๆดูนะครับ ว่าสมมุติเราเติมน้ำมันที่คาลเท็กซ์(Caltex)ครั้งละ 800 บาทได้คืนครั้งละ10% ก็เท่ากับ 80 บาท ซึ่งอาจจะดูไม่เยอะถูกมั้ยครับ

แต่เดือนนึงเราสามารถเติมน้ำมันครั้งละ 800 บาทเพื่อรับเครดิตเงินคืนได้ 4 ครั้ง(เพราะทาง UOB กำหนดมูลค่ายอดใช้จ่ายไว้ไม่เกิน 3,200 บาท ถ้าเติมมากกว่านั้นก็ไม่ได้ Cashback เพิ่ม)

นั่นเท่ากับว่าเราจะได้เครดิตเงินคืนเป็นมูลค่า 320 บาทต่อเดือนจากการใช้บัตร UOB Premier เติมน้ำมันที่ปั๊มคาลเท็กซ์

และส่วนใหญ่แล้ว ระยะเวลาโปรโมชั่นนี้จะมีตลอดทั้งปี นั่นแปลว่ามูลค่ารวมของเครดิตเงินคืน(Cashback) สูงสุดที่เราจะได้จากการเติมน้ำมันผ่านบัตรใบนี้เท่ากับ 3,840 บาท (12×320)

เพราะฉะนั้น แค่เครดิตคืนเงินจากการเติมน้ำมันต่อแรก 10% ก็น่าสนใจมากแล้วสำหรับผู้ถือบัตร UOB Premier ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการบัตรเครดิตสำหรับเติมน้ำมันคุ้มๆและยังอยากเก็บแต้มสะสมไว้แลกสิทธิประโยชน์ในด้านอื่นๆ

แต่ถ้าใครมีแต้มเหลือใช้ ก็สามารถนำมาแลกรับเครดิตเงินคืนได้อีก 15% ครับ

โปรโมชั่นเติมน้ำมันต่อที่สอง ใช้คะแนนสะสมแลกรับเครดิตเงินคืนได้สูงสุดอีก 15%

ผู้ถือบัตร UOB Premier สามารถใช้คะแนนสะสมยูโอบีรีวอร์ดพลัสทุกๆ 800 คะแนนเพื่อแลกรับเครดิตเงินคืนจากการเติมน้ำมันที่ปั๊มคาลเท็กซ์อีก 15% ของยอดเติมน้ำมัน

เมื่อลูกค้าลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วทางธนาคารก็จะหักคะแนนสะสมยูโอบีรีวอร์ดพลัสทุกๆ 800 คะแนนเมื่อลูกค้ามียอดใช้จ่ายจากการเติมน้ำมันที่ปั๊มคาลเท็กซ์ผ่านบัตร UOB Premier ทุกๆ 800 บาทต่อเซลล์สลิป และจะทำรายการเครดิตเงินให้ลูกค้าเป็นจำนวน 15% ของ 800 บาท 

โดยมีข้อจำกัดจำนวนคะแนนสะสมสูงสุดที่จะใช้แลกเครดิตเงินคืนได้ไว้ที่ 3,200 คะแนนต่อลูกค้าต่อเดือน(รวมทุกบัตรเครดิตยูโอบีที่ท่านถืออยู่) 

เท่ากับว่าถ้าจะเล่นโปรโมชั่นนี้ หลังจากลูกค้าลงทะเบียนสำหรับการใช้คะแนนแลก cashback แล้ว ก็เติมน้ำมันครั้งละ 800 บาท 4 ครั้งต่อเดือนโดยผ่านบัตร UOB Premier ก็จะได้เครดิตเงินคืนจากการแลกคะแนนครั้งละ 120 บาท(15% ของยอดเติมน้ำมัน 800) ในแต่ละครั้งที่เติมน้ำมัน  

UOB Premier เติมน้ำมันเอาแคชแบ็กคุ้มมั้ย?

เมื่อลองคิดดูก็จะได้เครดิตเงินคืนในต่อที่สองเป็นมูลค่าเท่ากับ 120×4 หรือ 480 บาทต่อเดือนจากการใช้คะแนนสะสมยูโอบีรีวอร์ดพลัสแลกเครดิตเงินคืนจากการเติมน้ำมัน

เมื่อรวมกับเครดิตเงินคืนจากโปรโมชั่นต่อที่ 1 ก็จะเท่ากับว่าท่านจะได้เครดิตเงินคืนจากการเติมน้ำมันเป็นมูลค่า 800 บาทต่อเดือน

โดยปกติ ระยะเวลาโปรโมชั่นเครดิตเงินคืนจากการเติมน้ำมันจะมีระยะเวลาที่ยาว 6 เดือนจนถึง 1 ปี และมีตลอดปี

ก็เท่ากับว่าลูกค้าบัตร UOB Premier จะได้เครดิตเงินคืนไปเป็นมูลค่าเท่ากับ 4,800-9,600 บาท/ปีเลยทีเดียวครับ(ถ้าจ่ายด้วยเงินสดก็จะไม่ได้อะไรคืนกลับมาเลย)

หากใครที่มีค่าใช้จ่ายสำหรับชีวิตประจำวันในแต่ละเดือนในระดับที่ถึงตามเงื่อนไขกำหนดและไม่ได้มีแผนจะนำคะแนนสะสมทั้งหมดไปใช้แลกสิทธิประโยชน์ในรูปแบบอื่นก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากเลยนะครับ

ซึ่งดูแล้วยังไงก็คุ้ม เพราะเราก็ล้วนแต่จะต้องมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในแต่ละเดือนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่ากาแฟ ค่าซื้อของใช้เข้าบ้าน ค่าช็อปปิ้ง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ 

หากท่านแค่เปลี่ยนวิธีการชำระค่าใช้จ่ายเหล่านั้นมาเป็นการจ่ายผ่านบัตร UOB Premier ก็จะทำให้ท่านได้ผลประโยชน์เป็นเครดิตเงินคืนในการเติมน้ำมันซึ่งก็เป็นสิ่งที่คนมีรถต้องจ่ายอยู่แล้วในแต่ละเดือน ดีกว่าจ่ายเงินสดแล้วไม่ได้อะไรกลับมาเลยเป็นไหนๆ


การแบ่งชำระยอดใช้จ่ายหมวดแฟชั่น

ลูกค้าบัตร UOB Premier สามารถรับสิทธิผ่อนชำระ 0% เป็นเวลา 3 เดือน สำหรับยอดค่าใช้จ่ายสินค้าในหมวดแฟชั่นครับ โดยจะต้องเป็นการใช้จ่ายในหมวดแฟชั่นตั้งแต่ 10,000 ไปจนถึง 200,000 บาทต่อเซลส์สลิป

โดยยอดใช้จ่ายสินค้าในหมวดแฟชั่นดังกล่าวจะต้องเป็นยอดการใช้จ่ายจากผู้ค้าตามรหัสผู้ค้า(MCC : Merchant Category Code)ที่บริษัทผู้ออกบัตรเครดิต Mastercard และ Visa กำหนดไว้เท่านั้น

รหัสผู้ค้าที่จะสามารถเข้าร่วมโปรโมชั่นได้คือ 5611,5621,5631,5651,5661,5681,5691,5699,5948 และ 5999

ลูกค้าบัตร UOB Premier ท่านไหนที่สนใจจะร่วมโปรโมชั่นผ่อน 0% เป็นเวลา 3 เดือนสำหรับสินค้าในหมวดแฟชั่น จะต้องทำการลงทะเบียนทาง SMS ล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วันทำการ

โดยท่านจะได้รับลิ้งค์สำหรับกรอกรายละเอียดทางออนไลน์จากธนาคาร และต้องลงทะเบียนทุกครั้งเมื่อต้องการจะทำยอดแบ่งชำระ 0% 3เดือน

สำหรับใครที่ชอบผ่อนชำระสินค้าหมวดแฟชั่น บัตรอีกใบที่แนะนำก็คือบัตร UOB Lady’s Solitaire ครับ ซึ่งเป็นบัตรเครดิตสำหรับลูกค้ารายได้ 30,000 บาท/เดือนขึ้นไป และผ่อนชำระ 0% ได้นาน 6 เดือน


บริการที่จอดรถสำรองพิเศษสำหรับ UOB Premier

บริการที่จอดรถสำรองพิเศษสำหรับห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการนี้เป็นสิทธิประโยชน์ที่ติดบัตรของ UOB Premier มาตั้งแต่แรกเลย เพราะกลุ่มลูกค้าของบัตรใบนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่ไปใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้าเป็นประจำอยู่แล้ว

บัตร UOB Premier จอดรถที่ไหนได้บ้าง ?

  1. เดอะมอลล์งามวงศ์วาน
  2. เดอะมอลล์บางแค
  3. เซ็นทรัลเวิลด์
  4. เซ็นทรัลพระราม 9
  5. สยามเซ็นเตอร์ 

นอกจากสิทธิในการรับบริการที่จอดรถสำรองพิเศษแล้ว บัตร UOB Premier ยังมีสิทธิสมนาคุณให้สำหรับลูกค้าอีกอย่างที่หลายคนชอบมากๆโดยเฉพาะคอกาแฟ ซึ่งก็คือสิทธิรับเครื่องดื่มฟรีนั่นเองครับ


สิทธิการรับเครื่องดื่มฟรี

ลูกค้าที่ถือบัตร UOB Premier สามารถใช้สิทธิรับกาแฟหรือเครื่องดื่มฟรีได้ที่ร้านค้าที่ร่วมรายการต่อไปนี้ครับ

  1. ร้าน PAUL
  2. ร้าน % ARABICA
  3. ร้าน TWG
  4. ร้าน DEAN&DELUCA
  5. ร้าน CPS Coffee
  6. ร้าน Cafe Kitsune
  7. ร้าน Pacamara Coffee

ในปัจจุบัน ระยะเวลาโปรโมชั่นที่สามารถใช้สิทธิได้สำหรับลูกค้าบัตร UOB Premier จะอยู่ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 จนถึง 31 ธันวาคม 2567 ครับ โดยลูกค้าผู้ถือบัตรจะสามารถใช้สิทธิรับกาแฟหรือเครื่องดื่มเมนูที่ร่วมรายการฟรีได้ 1 แก้วต่อผู้ถือบัตรต่อเดือน (รวมทุกร้านค้า) 

ซึ่งก็คือท่านสามารถเลือกเอาได้ครับว่าในแต่ละเดือนจะไปลองเมนูเครื่องดื่มฟรีที่ร้านอะไร ลองไปเดือนละร้าน ร้านไหนนั่งสบาย เครื่องดื่มรสชาติถูกใจก็ค่อยอุดหนุนเป็นขาประจำกันเก็บคะแนนสะสมต่อไป

นอกจากบัตร UOB Premier จะจัดเตรียมสิทธิประโยชน์สำหรับคนที่ชอบใช้ชีวิตในห้างสรรพสินค้าไว้อย่างเต็มที่แล้ว อีกสิ่งนึงที่ไม่พลาดก็คือสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวนั่นเองครับ 

อาจจะไม่ได้โดดเด่นเทียบเท่าบัตรเครดิตที่เน้นเฉพาะการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ แต่ถ้ามองสิทธิประโยชน์โดยภาพรวมแล้วก็ยังคุ้มกว่าบัตรเครดิตอื่นๆหลายๆใบครับ

เพราะบัตรเครดิตที่เน้นสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวโดยเฉพาะก็มักจะมีสิทธิประโยชน์หรือโปรโมชั่นสำหรับการจับจ่ายใช้สอยทั่วไปไม่ได้โดดเด่นเท่า UOB Premier


ต่อไปเรามาดูสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวจากบัตร UOB Premier กันบ้างครับ

แลกคะแนนสะสมเป็นไมล์สายการบิน

คะแนนสะสมของ UOB Premier สามารถใช้แลกเป็นไมล์สะสมกับสายการบินชั้นนำต่างๆเพื่อใช้สำหรับแลกเป็นตั๋วโดยสารได้ครับ โดยที่อัตราการใช้คะแนนแลกเป็นไมล์สะสมของยูโอบีพรีเมียร์จะอยู่ที่ 3 คะแนนต่อ 1 ไมล์

ในปัจจุบัน ลูกค้าบัตร UOB Premier สามารถนำคะแนนสะสมยูโอบีรีวอร์ดไปแลกเป็นไมล์สะสมกับโปรแกรมสะสมไมล์ของ 4 โปรแกรมไมล์สะสมได้แก่

  1. รอยัลออร์คิดพลัส(Royal Orchid Plus) สายการบินไทย
  2. แอร์เอเชียพอยต์(AirAsia Point) สายการบินแอร์เอเชีย
  3. คริสฟลายเออร์(Kris Flyer) สายการบินสิงค์โปร์แอร์ไลน์
  4. เอเชียไมล์(Asia Miles) สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค

ซึ่งเมื่อดูจากโปรแกรมสะสมไมล์ของสายการบินที่เข้าร่วมรายการแล้ว ก็จะเห็นได้ว่าค่อนข้างจะเหมาะเลยสำหรับวัยของคนที่ทำงานมาซักระยะนึง ประสบความสำเร็จจากการทำงานหรือประกอบธุรกิจมาแล้วระดับนึงและเริ่มที่จะออกไปเที่ยวตามประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางในระดับภูมิภาค(Regional) 

หากคุณอยากเริ่มออกไปเที่ยวทางด้านตะวันออกตามจุดหมายปลายทางยอดฮิตอย่างเช่น ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน คุณสามารถเก็บแต้มเข้าเอเชียไมล์(Asia Miles) ได้เลย เพราะในเครือข่ายของประเทศทางด้านตะวันออกนี่ เจ้านี้ค่อนข้างคุ้มที่สุดแล้วครับ

ส่วนถ้าคุณอยากจะลงไปเที่ยวตามประเทศทางด้านทิศใต้ เช่น สิงคโปร์ มาเลย์เซีย อินโดนีเซีย หรือแม้กระทั่งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ก็แทบจะไม่มีโปรแกรมสะสมไมล์เจ้าไหนจะคุ้มค่าสู้ คริสฟลายเออร์(Kris Flyer) ของค่ายสิงค์โปรแอร์ไลน์ได้เลย

และแน่นอนว่าหากใครอยากจะอุดหนุนสายการบินของไทยหรือเดินทางในประเทศไทยก็สามารถเก็บแต้มเข้ารอยัลออร์คิดพลัสหรือแอร์เอเชียพ้อยต์ได้เช่นกัน

UOB Premier แลกไมล์คุ้มมั้ย?

ไม่ว่าผมจะชอบบัตร UOB Premier มากแค่ไหนก็ต้องยอมรับตรงๆอย่างนึงว่า การใช้คะแนนสะสมมาแลกเป็นไมล์สายการบินนั้นถือว่าไม่ใช่จุดเด่นของบัตรใบนี้ซักเท่าไหร่นักครับ

เพราะด้วยอัตราการแลกที่ 3 คะแนนต่อ 1 ไมล์นั้นยังถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับบัตรเครดิตสำหรับสะสมไมล์โดยเฉพาะอย่างเช่น UOB Privimiles ซึ่งใช้แค่ 1.2 คะแนน:1 ไมล์

แต่ถ้าใครที่ไม่คิดอะไรมาก ก็สามารถใช้จ่ายผ่านบัตร UOB Premier แล้วนำไปแลกเป็นไมล์สะสมได้ตามจำนวนคะแนนที่คุณมีอยู่ เพราะยังไงก็ต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว

ถ้าใครต้องการความคุ้มค่าสูงสุดสำหรับทุกบาทที่จ่ายออกไปก็อาจจะต้องวางแผนเพิ่มนิดนึงครับอาจจะสมัครบัตร UOB Privimiles เพิ่มก็เป็นอีกทางเลือกนึง


แน่นอนว่าเมื่อเราจะเดินทางไปต่างประเทศ สิ่งที่จำเป็นอย่างหนึ่งก็คือสถานที่นั่งพัก กินอาหาร เครื่องดื่มเวลาเราไปถึงสนามบินถูกมั้ยครับ ทาง UOB Premier ก็ไม่ลืมที่จะให้สิทธิประโยชน์สำหรับเข้าเลานจ์สนามบินมาด้วยเหมือนกันครับ

สิทธิการเข้าใช้ Miracle Lounge

บัตร UOB Premier ให้สิทธิลูกค้าได้เข้ารับบริการห้องเลานจ์ของมิราเคิล (Miracle Lounge) ที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นจำนวน 2 ครั้งต่อปีปฎิทิน(เฉพาะผู้ถือบัตร ไม่รวมผู้ติดตามและไม่สามารถโอนสิทธิให้ผู้อื่นได้)

เมื่อลูกค้าบัตรต้องการเข้าใช้งานที่ห้องรับรองมิราเคิลก็จะต้องแสดงบัตรเครดิตยูโอบีพรีเมียร์และบัตรโดยสารให้พนักงานตรวจสอบด้วย และสามารถใช้บริการได้ครั้งละไม่เกิน 2 ชั่วโมงครับ

แต่สำหรับผู้ถือบัตรท่านใดที่ยังไม่สะใจกับสิทธิการเข้ารับบริการที่มิราเคิลเลานจ์ ทางบัตร UOB Premier ก็ยังมีสิทธิประโยชน์อีกขั้นนึงเพิ่มขึ้นมาสำหรับท่านที่เดินทางบ่อยๆด้วยครับ นั่นก็คือบัตร Priority Pass นั่นเอง

บัตร Priority Pass

สมาชิกบัตร UOB Premier ที่มียอดใช้จ่ายสะสมจำนวน 1 ล้านบาทขึ้นไปภายในระยะเวลา 12 เดือน(ตามปีปฏิทิน) จะได้รับบัตร Priority Pass เพื่อสำหรับเข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษ(เลานจ์)ในสนามบินทั่วโลกซึ่งมีมากกว่า 1,300 แห่ง และที่สำคัญคือไม่จำกัดจำนวนครั้งด้วยครับ

อีกสิ่งสำคัญที่จะลืมไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางในทุกทริปนั่นก็คือการบริหารจัดการความเสี่ยงในรูปแบบต่างๆ เพราะทุกๆการเดินทางมักจะมีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นอยู่เสมอๆ

เหตุการณ์เหล่านี้มักจะส่งผลทำให้ผู้เดินทางต้องเสียเวลา เสียประโยชน์ หรือแม้กระทั่งได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งทาง UOB Premier ก็ได้เตรียมสิทธิประโยชน์ในเรื่องของประกันการเดินทางไว้ให้ลูกค้าผู้ถือบัตรด้วยครับ

ประกันภัยการเดินทาง

ลูกค้าผู้ถือบัตร UOB Premier จะได้รับประกันการเดินทางซึ่งครอบคลุมถึงประกันภัยอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางและค่าชดเชยในกรณีที่กระเป๋าสูญหาย หรือเที่ยวบิน/กระเป๋าล่าช้ากว่ากำหนด

ความคุ้มครองการเดินทางที่บัตร UOB Premier จัดเตรียมไว้ให้กับลูกค้าผู้ถือบัตรมีดังต่อไปนี้ครับ

  1. แผนประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง วงเงินครอบคลุมสูงสุด 20 ล้านบาท
  2. ค่าชดเชยสำหรับกรณีเที่ยวบินหรือกระเป๋าล่าช้ากว่ากำหนด วงเงินสูงสุด 100,000 บาท
  3. ค่าชดเชยสำหรับกรณีกระเป๋าสูญหายหรือล่าช้า วงเงินสูงสุด 100,000 บาท

โดยหากลูกค้าบัตรต้องการจะได้รับความคุ้มครองดังกล่าว ลูกค้าจะต้องชำระค่าโดยสารเต็มจำนวนผ่านบัตรเครดิต UOB Premier ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับการเดินทางในประเทศและระหว่างประเทศ ครอบคลุมทั้ง การโดยสารเครื่องบิน,รถโดยสารประจำทางสาธารณะ,รถไฟและเรือ 

และลูกค้าจะต้องแจ้งความประสงค์ก่อนเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วันทำการทุกครั้งก่อนการเดินทางที่ต้องการความคุ้มครองครับ

บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน

นอกจากความคุ้มครองที่ทาง UOB Premier มีให้ลูกค้าเวลาเดินทางโดยพาหนะสาธารณะแล้ว ก็ยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนอีกด้วยนะครับ โดยการบริการดังกล่าวจะครอบคลุมถึงช่างซ่อมฉุกเฉิน ยกรถฉุกเฉินและการจองห้องพักหรือรถเช่าให้อีกด้วย


UOB Premier ดีไหม เหมาะกับใคร?

บัตรเครดิต UOB Premier เป็นบัตรเครดิตที่ดีหากคุณมีวิถีชีวิตดังต่อไปนี้ครับ

  1. มีเงินเดือน/รายได้ 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
  2. มีงบประมาณใช้จ่ายผ่านบัตรใบนี้เดือนละ 25,000 บาทขึ้นไป(เพื่อยกเว้นค่าธรรมเนียม)
  3. ซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าเป็นประจำ(คะแนนสะสมX4)
  4. ซื้อสินค้ากับร้านค้าปลอดภาษี(Duty-free)เป็นประจำ(คะแนนสะสมX4)
  5. ซื้อของกิน ของใช้จากซุปเปอร์มาร์เก็ตตามรายชื่อนี้เดือนละไม่เกิน 10,000 บาท(เครดิตเงินคืน 5%)
    1. เซ็นทรัลฟู๊ดฮอล์(Central Food Hall)
    2. ท็อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต(Top Super Market)
    3. โฮมเฟรชมาร์ท(Home Fresh Mart)
    4. กูร์เมต์ มาร์เก็ต(Gourmet Market)
    5. วิลล่ามาร์เก็ต(Villa Market)
    6. ฟู๊ดแลนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ต(Foodland Super Market)
  6. เติมน้ำมันกับปั๊มคาลเท็กซ์เป็นประจำ(เครดิตเงินคืน 10%)
  7. ชอบซื้อสินค้าแฟชั่นมูลค่า 10,000-200,000 บาทขึ้นไป/ครั้ง(ผ่อน 0% 3เดือน)
  8. ชอบลองเครื่องดื่มตามร้านกาแฟในห้าง(ได้สิทธิรับเครื่องดื่มฟรี)
  9. ไปใช้บริการห้างตามรายชื่อเหล่านี้เป็นประจำ(มีที่จอดรถ)
    1. เดอะมอลล์งามวงศ์วาน
    2. เดอะมอลล์บางแค
    3. เซ็นทรัลเวิลด์
    4. เซ็นทรัลพระราม 9
    5. สยามเซ็นเตอร์  
  10. เดินทางและใช้บริการเลาจน์สนามบินสุวรรณภูมิ(Miracle Lounge 2 ครั้ง/ปี)

ส่วนใครที่สนใจสิทธิประโยชน์ทางด้านการท่องเที่ยว บัตร UOB Premier ก็มีบริการครอบคลุมอยู่เหมือนกันครับ แต่ถ้าเทียบกับบัตรอื่นๆแล้วอาจจะยังไม่คุ้มค่านัก จึงไม่นำมาคิดเป็นเหตุผลหลักในการถือบัตรใบนี้ครับ

ตัวอย่างเช่น ถ้าใครอยากจะเอาคะแนนสะสมจากบัตรมาใช้แลกเป็นไมล์สะสมสายการบิน บัตร UOB Premier ก็ทำได้ครับด้วยอัตรา 3 คะแนน:1ไมล์ แต่ไม่คุ้มค่าเท่าบัตร UOB Privimiles ที่สามารถแลกได้ในอัตรา 1.2คะแนน:1ไมล์

หรือในกรณีสิทธิการได้รับบัตร Priority Pass นั้น บัตร UOB Premier ก็มีให้ลูกค้าผู้ถือบัตรเหมือนกัน แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรปีละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งคิดเป็นรายจ่ายผ่านบัตรเฉลี่ยประมาณ 83,400 บาท/เดือน

ถ้าใครทีรายได้และใช้จ่ายถึงยอดดังกล่าวก็ไม่มีปัญหาครับ แต่ในความเป็นจริงก็คือท่านสามสารถรับ Priority Pass จากบัตรใบอื่นได้ในต้นทุนรายจ่าย/ปีที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญ เราจึงไม่นำมาเป็นปัจจัยหลักที่จะสมัครบัตรใบนี้

จุดอ่อนของบัตร UOB Premier

ส่วนตัวผมเองพบว่าในข้อดีของบัตร UOB Premier ก็มีข้อด้อยแฝงอยู่ครับ ซึ่งก็คือเรื่องของการใช้จ่ายขั้นต่ำที่จะได้คะแนนสะสมและอัตราการแลกไมล์สายการบินที่ยังไม่ถือว่าดีที่สุด

ถึงแม้ว่า UOB Premier จะให้คะแนนถึง 2 คะแนนต่อการใช้จ่ายทุกๆ 25 บาท แต่ในชีวิตประจำวันของเรานั้นบางครั้งมีการซื้อของเล็กๆน้อยที่ราคาไม่ถึง 25 บาท ทำให้ธุรกรรมนั้นๆจะไม่ได้แต้มสะสม

เพราะในชีวิตประจำวันของเรานั้นบางครั้งเดินเข้าร้านสะดวกซื้อเพียงเพื่อซื้อน้ำอัดลมมาดื่มให้ชื่นใจซัก 1 กระป๋อง,ขนมขบเคี้ยวหรือสินค้าเล็กๆชิ้นเดียว ซึ่งส่วนใหญ่มีราคาไม่ถึงไม่ถึง 25 บาท เราก็จะพลาดการสะสมแต้มในการใช้จ่ายครั้งนั้นๆไป

ซึ่งถ้าใครที่อยากจะสะสมแต้มเพื่อความคุ้มค่าทุกบาทจริงๆก็อาจจะต้องปรับแผนไปชำระผ่านบัตรใบอื่นๆเช่น UOB Preferred ที่ใช้จ่าย 15 บาทก็จะได้ 1 คะแนน

หรือถ้าใครที่มีบัตร UOB YOLO Platinum อยู่ด้วยก็สามารถใช้แทนไปได้เลยในกรณีที่ซื้อของไม่ถึง 25 บาทเพื่อรับเครดิตเงินคืนแทนการสะสมแต้ม

แต่แน่นอนว่า ถ้าคุณจะต้องจ่ายอะไรในราคา 25 บาทขึ้นไปหรือเป็นจำนวนที่หาร 25 ลงตัวแล้วล่ะก็ แทบจะไม่มีอะไรคุ้มเท่าบัตร UOB Premier อีกแล้วครับ

สนใจสมัครบัตร UOB Premier ง่ายๆผ่านช่องทางออนไลน์ คลิกที่นี่ได้เลยครับ :>> สมัครบัตร UOB Premier

UOB Premier รูดอะไรแล้วไม่ได้คะแนนบ้าง

ยอดการใช้จ่ายที่เป็นข้อยกเว้นของบัตร UOB Premier ซึ่งรูดแล้วจะไม่ได้คะแนนสะสม UOB Reward plus มีดังนี้ครับ

  1. การถอนเงินสดล่วงหน้าจากเครื่อง ATM
  2. การจ่ายค่าธรรมเนียม
  3. ยอดการใช้จ่ายจากการซื้อกองทุนต่างๆ
  4. Fund Transfer
  5. ยอดใช้จ่ายที่ยังไม่เรียกเก็บสำหรับการผ่อนชำระต่างๆ
  6. การแลกเงินสกุลต่างประเทศผ่านบัตรเครดิต
  7. ยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมัน(ได้เครดิตเงินคืน)
  8. ค่าบริการอื่นๆทุกประเภท ตัวอย่างเช่น การจ่ายค่าสมาชิกรายปี,ยอดชำระค่าธรรมเนียมการชำระเงินล่าช้า,ยอดชำระดอกเบี้ยของหนี้ที่ค้างชำระ
  9. รายการใช้จ่ายที่เกินกว่าวงเงินที่ได้รับอนุมัติของบัตรเครดิตแต่ละใบ

ซึ่งถ้าหากใครที่มีแพลนจะต้องชำระสิ่งต่างๆที่เป็นข้อยกเว้นเหล่านี้และต้องการความคุ้มค่าก็คงจะต้องเลี่ยงไปหาช่องทางอื่นที่มีโปรโมชั่นสิทธิประโยชน์อื่นๆในการชำระเงินแทนครับ 

สนใจสมัครบัตร UOB Premier ง่ายๆผ่านช่องทางออนไลน์ คลิกที่นี่ได้เลยครับ :>> สมัครบัตร UOB Premier

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save